site loader
site loader
04/06/2021 แอสตร้าเซนเนก้า รับมอบวัคซีนโควิดล็อตแรกจากสยามไบโอไซเอนซ์แล้ว

แอสตร้าเซนเนก้า รับมอบวัคซีนโควิดล็อตแรกจากสยามไบโอไซเอนซ์แล้ว

แอสตร้าเซนเนก้า รับมอบวัคซีนโควิดล็อตแรกจากสยามไบโอไซเอนซ์แล้ว

วันนี้ (2 มิ.ย.) แอสตร้าเซนเนก้า ประกาศพร้อมทยอยส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศไทย ให้กับรัฐบาลใช้ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่สยามไบโอไซเอนซ์ได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรกได้สำเร็จตามแผน โดยพิธีส่งมอบได้รับเกียรติจาก พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานกรรมการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด และ นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญนี้

ศูนย์การผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย เกิดจากความร่วมมือระหว่างแอสตร้าเซนเนก้าและสยามไบโอไซเอนซ์ ผู้ผลิตยาชีววัตถุชั้นนำของไทย เพื่อสนับสนุนให้ประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าจะส่งมอบวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยล็อตแรกให้กับกระทรวงสาธารณสุขทันที ตามแผนการส่งมอบและเก็บรักษา เพื่อนำไปดำเนินการฉีดวัคซีนเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนต่อไป และจะเริ่มส่งออกวัคซีนโควิด-19 ให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

Related Post
วัคซีน

สำนักข่าวบีบีซีรายงาน รัฐบาลไทยตัดสินใจเปลี่ยนนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยการปรับฉีดวัคซีน 2 ยี่ห้อ

เปิดตัวมาได้เกือบ 1 เดือนแล้วสำหรับ “ขวัญ” ลูกเสือโคร่งที่ถูกชุดปฏิบัติการพิเศษชุดเหยี่ยวดง ได้จับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่า และยึดเป็นของกลาง

ดีอีเอส

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กล่าวว่า ได้เชิญผู้ให้บริการมารับทราบคำสั่งศาลที่มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์

04/06/2021 WHO รับรองวัคซีนโควิด “ซิโนแวค” แล้ว ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ตัวที่ 2 ของจีนต่อจาก “ซิโนฟาร์ม”

WHO รับรองวัคซีนโควิด “ซิโนแวค” แล้ว ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ตัวที่ 2 ของจีนต่อจาก “ซิโนฟาร์ม”

WHO รับรองวัคซีนโควิด “ซิโนแวค” แล้ว ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ตัวที่ 2 ของจีนต่อจาก “ซิโนฟาร์ม”

หลังจากที่รอคอยผลกันมานาน วานนี้ (1 มิ.ย.) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ให้การรับรองวัคซีน “โคโรนาแวค (CoronaVac)” วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่พัฒนาโดยซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) บริษัทเภสัชภัณฑ์สัญชาติจีน สำหรับการใช้งานในกรณีฉุกเฉินแล้ว ถือเป็นวัคซีนตัวที่สองของจีนที่ได้รับการอนุมัติต่อจากวัคซีนซิโนฟาร์ม และเป็นการเปิดทางให้วัคซีนซิโนแวคสามารถใช้ได้ในกลุ่มประเทศยากจน

อย่างไรก็ตาม การอนุมัติให้ใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉินโดยองค์การอนามัยโลก ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงหน่วยงานต่างๆ ในระดับชาติที่กำกับดูแลเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน นอกจากนั้น ยังเป็นการอนุมัติให้เกิดการผนวกวัคซีนซิโนแวคเข้าสู่โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการจัดหาวัคซีนให้แก่กลุ่มประเทศยากจน ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่จากการขาดแคลนวัคซีน

ในขณะที่คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกัน (SAGE) ออกแถลงการณ์ระบุว่า แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนซิโนแวคแก่ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยเว้นระยะ 2-4 สัปดาห์ก่อนการรับวัคซีนโดสที่สอง ทั้งนี้ ไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์อายุสูงสุด เนื่องจากข้อมูลวิจัยบ่งชี้ว่า วัคซีนซิโนแวคมีแนวโน้มที่จะมีผลเชิงป้องกันในผู้สูงอายุ

Related Post
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ กทม. เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้แล้วเสร็จภายใน 2 Read more

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันก็จะได้ไปสนุกสุดมันส์กันที่งาน LEO Presents Flex Aqua Fest 2023 กันแล้ว ใครมีสิทธิ์เข้างานอยู่ในมือ เก็บสิทธิ์ไว้ให้ดี Read more

จี๊บ เทพอาจ

จี๊บ เทพอาจ ได้เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือครอบครัววีรบุรุษนักดับเพลิง อย่างน้องพอส เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท

01/06/2021 ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ชี้แจงชัดๆ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ต้องหยุดกินยาคุม

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ชี้แจงชัดๆ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ต้องหยุดกินยาคุม

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ชี้แจงชัดๆ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ต้องหยุดกินยาคุม

พล.อ.ท.นพ. การุณ เก่งสกุล ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยที่ 07/2564 เรื่อง การฉีดวัดซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้การฉีตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนสำหรับบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย รวมถึงสตรีวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งส่วนหนึ่งใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนมีหลายอย่าง
เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด และแผ่นยาปิดผิวหนังคุมกำเนิดในประเทศไทย การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ใด้ความความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ และมีผลข้างเคียงน้อย ยาเม็ดคุมกำเนิดได้รับการวิจัยและพัฒนาด้านความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 50 ปี

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนดังนี้ ดังนี้

ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนที่มีเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ยาเม็ด ยาฉีดคุมกำเนิด และแผ่นยาปิดผิวหนังคุมกำเนิด มีผลเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตันได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้วิธีการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวพบได้น้อยมากในสตรีไทย และยังพบได้น้อยกว่าในสตรีตั้งครรภ์ซึ่งมีระดับเอสโตรเจนสูงมากตามธรรมชาติ

ข้อมูล ณ ปัจจุบัน ซึ่งรวบรวมจากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิต-19 ในสตรีทั่วโลกและในประเทศไทย ซึ่งมีผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ไม่พบว่ามีการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตันแต่อย่างใด

ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนทุกชนิด สามารถรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดการใช้

หากยังมีความกังวลใจ และต้องการหยุดการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ มาทดแทนเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

Related Post
Covid19

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความว่า คนไทยผวาตรวจเจอติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย 36 ราย

ศบค.ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรถึง 30 พฤศจิกายนนี้ ลดระยะเวลาเป็น 22.00-04.00 น.

PSYCHIC FEVER กลับมาทวงความฮอตกับเพลง “FIRE feat. SPRITE” และการร่วมงานกันครั้งแรกกับ SPRITE ที่มาทำให้เพลงนี้ร้อนแรงขึ้นอีก

01/06/2021 ชมรมหมอชนบทเสนอฉีด “แอสตร้าเซนเนก้า” หมดหน้าตัก หยุดโควิดระบาด กทม.-ปริมณฑล

ชมรมหมอชนบทเสนอฉีด “แอสตร้าเซนเนก้า” หมดหน้าตัก หยุดโควิดระบาด กทม.-ปริมณฑล

ชมรมหมอชนบทเสนอฉีด “แอสตร้าเซนเนก้า” หมดหน้าตัก หยุดโควิดระบาด กทม.-ปริมณฑล

วานนี้ (31 พ.ค.) เพจเฟซบุ๊ก “ชมรมแพทย์ชนบท” โพสต์ข้อความนำเสนอข้อเสนอใหม่เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใต้หัวข้อ : ลับลวงพราง วัคซีนโควิด ตอน 3 “หยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด ถมวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าหมดหน้าตักที่กรุงเทพและปริมณฑล” โดยมีเนื้อหาใจความดังต่อไปนี้

การระบาดระลอก 3 นั้น มีการระบาดหนักที่สุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีผู้ป่วยโควิดทั้งสิ้น 100,412 คน อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 5 จังหวัดถึง 60,781 คน หรือคิดเป็น 60% ของทั้งประเทศ การยุติการระบาดในเมืองหลวงนั้นปัจจุบันทำได้แค่ยืนพิงเชือกอย่าให้ล้ม รอวัคซีนมาช่วย แต่เมื่อวัคซีนมาน้อย แอสตร้าเซนเนก้าไม่มาตามนัด ซิโนแวคก็ต้องกระจายทั่วประเทศ ไฟเซอร์-โมเดอร์นายังไม่แม้แต่ส่งเงินไปจองวัคซีน ซิโนฟาร์มจะมา lot ใหญ่ได้แค่ไหนยังไม่รู้ การยุติการระบาดในกรุงเทพจึงไม่เห็นอนาคต

ที่สำคัญ กรุงเทพและปริมณฑล มีระบบการสาธารณสุขที่อ่อนแอที่สุดในประเทศ ทางเลือกหนึ่งเพื่อการยุติการระบาดของโควิดระลอก 3 ด้วยข้อจำกัดที่วัคซีนมีน้อยมาก ก็คือ ต้องเลือกเป้าที่จะยิง ไม่ใช่ยิงกระจัดกระจายเป็นเบี้ยหัวแตก และรัฐบาลต้องกล้าหาญเอาการเมืองออกจากวัคซีนชมรมแพทย์ชนบท จึงมีข้อเสนอใหม่สำหรับรัฐบาล ขอให้ ศบค.นำวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” ทั้งหมดราว 1.8 ล้านโดส ที่ผลิตได้จากสยามไบโอไซเอนซ์ในเดือนมิถุนายนนี้ เทหมดหน้าตักถมลงที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 3 จังหวัด อาทิ จัดให้กรุงเทพมหานคร 9 แสนโดส เพื่อกระจายลงในเขตที่มีการระบาด และจัดไปที่ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ จังหวัดละ 3 แสนโดส ฉีดให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ จะช่วยลดการระบาดลงได้มาก บทเรียนจากแม่สอดพบว่า ที่นั่นได้ฉีดวัคซีนเพียง 30% ก็มี herd immunity พอที่จะไม่ระบาดใหญ่แล้ว ส่วนจะให้ถึง 70% นั้นคงยากในภาวะที่ไทยเรามีวัคซีนในมือน้อยเช่นนี้

ทำไมต้องเป็นแอสตร้า ก็เพราะวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” เกิดภูมิคุ้มกันหลังการฉีดเข็มแรกถึงมากกว่า 80% ในขณะที่วัคซีนซิโนแวคต้องรอหลังเข็ม 2 จึงจะเกิดภูมิในระดับที่ใกล้เคียงกัน” ซึ่งคืออ ใจความสำคัญคร่าวๆ ในการแนะนำการกระจายวัคซีนในอนาคต ของชมรมแพทย์ชนบท ใครที่อยากอ่านเต็มๆ ตามไปดูกันได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “ชมรมแพทย์ชนบท”

Related Post
แอน จักรพงษ์

แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์  โพสต์ข้อความระบุว่า ตนอยากช่วยร้านอาหารที่มีปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากมาตรการการควบคุมโรคโควิด-19 ของภาครัฐ

WHO

นักวิชาการ WHO แจ้งตรวจสอบพบพาดหัว-ตัดต่อเนื้อหาทำเข้าใจผิดตามที่มีการแชร์ข่าวและข้อมูลว่า “WHO เตือนเลี่ยงฉีดวัคซีนผสมสูตร"

จี๊บ เทพอาจ

จี๊บ เทพอาจ ได้เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือครอบครัววีรบุรุษนักดับเพลิง อย่างน้องพอส เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท