site loader
site loader
26/10/2021 Financial Times ชี้โครงการวัคซีนโคแวกซ์ของอนามัยโลก “ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่” วัคซีนไปถมที่ประเทศร่ำรวยมากกว่าประเทศยากจน

Financial Times ชี้โครงการวัคซีนโคแวกซ์ของอนามัยโลก “ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่” วัคซีนไปถมที่ประเทศร่ำรวยมากกว่าประเทศยากจน

Financial Times ชี้โครงการวัคซีนโคแวกซ์ของอนามัยโลก “ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่” วัคซีนไปถมที่ประเทศร่ำรวยมากกว่าประเทศยากจน

รายงานจากสื่อ Financial Times ระบุว่า โครงการวัคซีน โคแวกซ์ (COVAX) ที่เกิดขึ้นเพื่อการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประเทศยากจนนั้น “ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่”

รายงานดังกล่าวเปิดเผยว่า “ประเทศร่ำรวยได้รับวัคซีนโควิด-19 ต่อคน มากกว่าประเทศยากจนที่ต้องพึ่งพาโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกถึง 16 เท่า”  จนถึงขณะนี้ ประชาชนหลายล้านคนในประเทศยากจนที่สุดในโลกยังคงไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ในขณะที่ประชากรในประเทศร่ำรวยบางประเทศได้ฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สามแล้ว

Financial Times เตือนว่า สถานการณ์เช่นนี้​อาจนำไปสู่อัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งอาจมีการกลายพันธุ์ของเชื้อโคโรนาไวรัสต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้

เมื่อวันศุกร์ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า เวลานี้มี 82 ประเทศที่มีความเสี่ยงว่าอาจไม่สามารถทำตามเป้าหมายคือการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรอย่างน้อย 40% ของประเทศนั้น ๆ ภายในสิ้นปีนี้

ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ เปิดเผยว่า ณ วันอาทิตย์ มีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้ว 6,700 ล้านเข็มทั่วโลก ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสะสมทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 243.3 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 5 ล้านคน

Related Post

นักวิจัยจุฬาฯ พัฒนาเครื่องตรวจเชื้อโควิด-19 จากกลิ่นเหงื่อ ต่อยอดจากสุนัขดมโควิด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลจำเป็นต้องปรับใช้นโยบายใหม่

 “หมอทหาร” คิดค้น ชุด PPE ปรับอุณหภูมิ นวัตกรรม ใหม่ ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ ที่ร้อนเหงื่อหยดติ๋ง

04/06/2021 WHO รับรองวัคซีนโควิด “ซิโนแวค” แล้ว ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ตัวที่ 2 ของจีนต่อจาก “ซิโนฟาร์ม”

WHO รับรองวัคซีนโควิด “ซิโนแวค” แล้ว ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ตัวที่ 2 ของจีนต่อจาก “ซิโนฟาร์ม”

WHO รับรองวัคซีนโควิด “ซิโนแวค” แล้ว ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ตัวที่ 2 ของจีนต่อจาก “ซิโนฟาร์ม”

หลังจากที่รอคอยผลกันมานาน วานนี้ (1 มิ.ย.) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ให้การรับรองวัคซีน “โคโรนาแวค (CoronaVac)” วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่พัฒนาโดยซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) บริษัทเภสัชภัณฑ์สัญชาติจีน สำหรับการใช้งานในกรณีฉุกเฉินแล้ว ถือเป็นวัคซีนตัวที่สองของจีนที่ได้รับการอนุมัติต่อจากวัคซีนซิโนฟาร์ม และเป็นการเปิดทางให้วัคซีนซิโนแวคสามารถใช้ได้ในกลุ่มประเทศยากจน

อย่างไรก็ตาม การอนุมัติให้ใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉินโดยองค์การอนามัยโลก ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงหน่วยงานต่างๆ ในระดับชาติที่กำกับดูแลเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน นอกจากนั้น ยังเป็นการอนุมัติให้เกิดการผนวกวัคซีนซิโนแวคเข้าสู่โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการจัดหาวัคซีนให้แก่กลุ่มประเทศยากจน ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่จากการขาดแคลนวัคซีน

ในขณะที่คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกัน (SAGE) ออกแถลงการณ์ระบุว่า แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนซิโนแวคแก่ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยเว้นระยะ 2-4 สัปดาห์ก่อนการรับวัคซีนโดสที่สอง ทั้งนี้ ไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์อายุสูงสุด เนื่องจากข้อมูลวิจัยบ่งชี้ว่า วัคซีนซิโนแวคมีแนวโน้มที่จะมีผลเชิงป้องกันในผู้สูงอายุ

Related Post
ซิโนฟาร์ม

นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย เผยว่า อบจ.สมุทรปราการได้รับจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มลอตแรกจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สำหรับผู้ลงทะเบียน 99,000 คน

วัคซีน

หลังจากโควิดสายพันธุ์เดลต้าเริ่มแพร่ระบาดในประเทศไทย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับวัคซีนที่มีไม่รองรับสายพันธุ์เดลต้า

ล็อกดาวน์

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 มีสาระสำคัญคือการล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้