หยุดแชร์ ข่าวบิดเบือน แพทย์ศิริราชออกโรงชี้แจ้งแล้ว!
ตามที่มีการส่งต่อข้อความในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง คำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการฉีดวัคซีน MODERNA เป็นเข็มกระตุ้น โดยกล่าวอ้างว่าเป็นคำแนะนำของ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นั้น ซึ่งข้อความดังกล่าวบิดเบือนจากความเป็นจริงดังนี้
1. เนื้อหาบิดเบือน “กรณีฉีด Sinovac ครบ 2 เข็มแล้ว หากกระตุ้นด้วย Moderna ควรฉีดอีก 2 เข็ม โดยอ้างชื่อ พญ. กุลกัญญา และมีเนื้อหาในเครื่องหมายคำพูด “ภูมิที่ได้จาก Sinovac ตกลงมากอย่างมีนัยสำคัญ ต่อสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) จึงเทียบเท่ากับไม่ได้ฉีด – สำหรับสายพันธุ์นี้” ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่า พญ. กุลกัญญา แนะนำหรือเขียนเช่นนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง
เนื้อหาที่ถูกต้อง คือ ผู้ที่ฉีดวัคซีน Sinovac รวมทั้งวัคซีนอื่นๆ ด้วย เมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้ว คาดว่าจะต้องฉีดกระตุ้น เพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกันที่จะตกลงตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป รวมทั้งเพื่อให้สามารถป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้ดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี การฉีดกระตุ้นนี้ยังไม่แน่ชัดว่า ควรฉีดเมื่อไหร่ แต่คาดว่าน่าจะหลังจากฉีดครบ 2 เข็มแล้ว อย่างน้อย 3-4 เดือน และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ควรจะกระตุ้นด้วยวัคซีนตัวใดจึงจะเหมาะสม ทั้งหมดนี้ยังต้องรอการศึกษาที่จะได้ผลเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ในการฉีดกระตุ้นนั้น คาดว่าฉีดเพียงเข็มเดียวน่าจะเพียงพอ
2.เนื้อหาบิดเบือน “แต่ถ้าฉีด Sinovac เป็นเข็มแรก ยังไม่แนะนำให้ตามด้วย moderna เป็นเข็มที่ (เนื่องจากไม่มีงานวิจัยรับรอง) ยกเว้นว่า จะเริ่มใหม่เลย คือฉีด Moderna อีก 2 เข็มไปเลย”
เนื้อหาที่ถูกต้อง คือ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนที่จะให้คำแนะนำเหล่านี้ในขณะนี้ แต่ถ้าจะเปลี่ยนชนิดของวัคซีนในเข็มที่ 2 ตามความจำเป็น เช่นแพ้เข็มที่ 1 ก็สามารถทำได้ โดยนับต่อเป็นเข็มที่ 2 ได้เลย ไม่ต้องมาเริ่มฉีดใหม่
3.เนื้อหาบิดเบือน “กรณีฉีด AstraZeneca ครบ 2 เข็มแล้ว หากกระตุ้นด้วย Moderna ฉีดเพิ่มอีก 1 เข็ม (ตามผลวิจัย)”
เนื้อหาที่ถูกต้อง ยังไม่มีรายงานผลการวิจัยที่อ้างถึง
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.si.mahidol.ac.th/th
เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยัน ล่าสุด มีรายงานว่าพบเชื้อสายพันธุ์เบตา
งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Science พบว่า Covid-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์เอพไซลอน (Epsilon) มีการกลายพันธุ์บริเวณหนามโปรตีน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้สัมภาษณ์ กรณีมีข่าวว่าข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขถูกแฮกข้อมูลว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และเคยเกิดที่สระบุรี
