site loader
site loader
15/07/2021 “บุ๋ม ปนัดดา” ควักเงินส่วนตัว 1 แสนบาท ซื้อที่ตรวจโควิดให้กับคนยากจน

“บุ๋ม ปนัดดา” ควักเงินส่วนตัว 1 แสนบาท ซื้อที่ตรวจโควิดให้กับคนยากจน

“บุ๋ม ปนัดดา” ควักเงินส่วนตัว 1 แสนบาท ซื้อที่ตรวจโควิดให้กับคนยากจน

ช่วยสังคมอย่างต่อเนื่องจริงๆ อย่างสาวเก่งอย่าง บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เช่นในสถานการณ์โควิด19 ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ ก็จะเห็น บุ๋ม ปนัดดา ยื่นมือเข้าไปช่วยลงแรงด้วยตัวเองตลอดในทุกเรื่องที่ช่วยได้

แถมล่าสุด บุ๋ม ปนัดดา ยังควักเงินในกระเป๋าส่วนตัว 1 แสนบาท ไปซื้อที่ตรวจโควิดแบบ rapid test ให้กับคนยากจนและผู้ป่วยที่เข้าถึงการตรวจยากด้วย โดยบุ๋มได้โด้โพสต์ข้อความไว้ว่า

“ควักเงินส่วนตัว 1 แสนบาท ซื้อที่ตรวจโควิดแบบ rapid test เพื่อคนยากจนและผู้ป่วยที่เข้าถึงการตรวจยาก หรือบ้านที่มีผู้ติดเชื้อ และญาติมีอาการแต่ไม่ได้ตรวจสักที จะได้ดูแลตัวเองกันต่อไป ปนัดดาจะสู้โควิดไปพร้อมกับทุกคนค่ะ”

งานนี้แฟนๆ ก็เข้ามาชื่นชม บุ๋ม ปนัดดา กันมากมาย รวมถึงอยากทราบราคาและได้รู้ว่ามีผู้ต้องการอยากหาซื้อที่ตรวจเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

Related Post
หนุ่ม กรรชัย

หนุ่ม กรรชัย ต้อง Live สด ชี้แจ้งว่าจะต้องเข้ารับการกักตัวตามมาตรการให้ครบ และ อาจจะหายจากหน้าจอสักพักนึง ในรายการสดที่ทำไว้

ร่างทรง The Medium

แฟนหลังผีคอสยองขวัญห้ามพลาด เรื่อง "ร่างทรง The Medium" ภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปี 2021 จาก GDH

JEEP

นอกจากเป็นนักร้อง นักดนตรี คุณจี๊บ เทพอาจ ส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไฟไหม้โรงงานหมิงตี้

15/07/2021 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพาดหัวคำเตือนจาก WHO พบบิดเบือนจากความหมาย!!!

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพาดหัวคำเตือนจาก WHO พบบิดเบือนจากความหมาย!!!

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพาดหัวคำเตือนจาก WHO พบบิดเบือนจากความหมาย!!!

จากกระแสฮือฮาเรื่อง WHO ออกเตือน ว่าฉีดวัคซีน 2 ยี่ห้อไม่ปลอดภัย ทางนักวิชาการ WHO แจ้งตรวจสอบพบพาดหัว-ตัดต่อเนื้อหาทำเข้าใจผิดตามที่มีการแชร์ข่าวและข้อมูลว่า “WHO เตือนเลี่ยงฉีดวัคซีนผสมสูตร โดยระบุว่าเป็นอันตราย หรือ “dangerous trend” นั้น

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อความที่รายงานข่าวในประเทศไทยนั้น แปลมาจากข่าวที่รายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งพาดหัวว่า “WHO warns against mixing and matching COVID vaccines” ซึ่งเผยแพร่เมื่อ 00.40 น. 13 ก.ค. 64 ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีข้อความบางส่วนจากคำพูดของ Dr.Soumya Swaminathan หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ องค์การอนามัยโลกท่านดังกล่าว ได้แก่ “It’s a little bit of a dangerous trend here. We are in a data-free, evidence-free zone as far as mix and match,”และ”It will be a chaotic situation in countries if citizens start deciding when and who will be taking a second, a third and a fourth dose.”

(ข่าวต้นฉบับ] https://www.reuters.com/…/status/1414640744762073089)

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ข่าวเผยแพร่ออกไป เมื่อเวลา 01.44 น. 13 ก.ค. 64 หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ องค์การอนามัยโลกท่านนั้น ได้เขียนข้อความบนบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยอ้างอิงข่าวดังกล่าว โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า “บุคคลทั่วไป ไม่ควรตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ควรเป็นหน่วยงานสาธารณสุขตัดสินใจบนฐานของข้อมูลที่มี…”

(ข่าวต้นฉบับ) “Individuals should not decide for themselves, public health agencies can, based on available data. Data from mix and match studies of different vaccines are awaited – immunogenicity and safety both need to be evaluated” https://twitter.com/doctors…/status/1414657053180809224…

นอกจากนั้น Dr.Soumya ยังรีทวิตและแสดงความขอบคุณ Menaka Pai แพทย์นักวิชาการอีกท่านหนึ่ง ที่เขียนทวีตว่า พาดหัวข่าวเรื่องที่ออกมาเตือนการผสมวัคซีนนั้น เป็นการพาดหัวที่ทำให้เข้าใจผิด เช่นข้อความที่แปลได้ว่า

“Dr.Soumya ต้องการเตือนไม่ให้บุคคลทั่วไป ‘ช็อปปิ้งวัคซีน’ ด้วยตัวเอง โดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานสาธารณสุข (รวมทั้งการตัดสินใจฉีดโดส 3 หรือ 4 เอง)” “เธอไม่ได้บอกว่า นโยบายวัคซีนของแต่ละประเทศเป็นอันตราย”

(https://twitter.com/mpaimd/status/1414670469312172033…)

ดังนั้น ข้อความที่อยู่บนพาดหัวข่าว และมีการนำมารายงานต่อกันนั้น จึงไม่สอดคล้องตรงกับบริบทและจุดมุ่งหมายของผู้ที่กล่าวข้อความแต่อย่างใด

ส่วนแนวทางการ Mix & Match สลับวัคซีนนั้น มีข้อมูลการดำเนินการศึกษาและส่งเสริมในบางประเทศ เช่น แคนาดา https://www.cp24.com/…/canadian-health-officials-defend… รวมทั้งล่าสุดในประเทศไทย

Related Post

ข่าวดี! ประชาชนทั่วไปกลุ่มเสี่ยง 13 จังหวัด เตรียมฉีดไฟเซอร์สัปดาห์นี้

ฟ้าทะลายโจร

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ จากคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564

 นายกรัฐมนตรี กำชับให้กระจายวัคซีนไฟเซอร์ ที่ได้รับจากสหรัฐ 1.54 ล้านโดส ตามแผนที่กำหนด ที่เน้นฉีดแก่บุคลากรแพทย์ด่านหน้า

15/07/2021 ข่าวดี! ไทยวิจัย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ได้สำเร็จ ลดการนำเข้า รักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ

ข่าวดี! ไทยวิจัย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ได้สำเร็จ ลดการนำเข้า รักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ

ข่าวดี! ไทยวิจัย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ได้สำเร็จ ลดการนำเข้า รักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตาม ความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนาการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศ สำหรับต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ BCG (Bio-Circula-Green Economy) ของรัฐบาล โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รายงานว่า ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สวทช. องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ บริษัท ปตท.

เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์สารตั้งต้น (Active Pharmaceutical Ingredients : API) ของการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ความเป็นไปได้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ เพี่อสร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศไทย โดยความร่วมมือดังกล่าว มีความคืบหน้าอย่างมาก สามารถสังเคราะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และยังเป็นการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นที่มีราคาถูกโดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันต้องมีการนำเข้ามากถึงร้อยละ 95

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทางองค์การเภสัชกรรมคาดว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้วิจัยและพัฒนาขึ้นนั้น จะได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และจากนั้นจะเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อให้ผู้ป่วย โควิด-19 เข้าถึงยาอย่างเพียงพอ เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจะสามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในราคาที่ถูกกว่านำเข้าอย่างมาก

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สวทช. อภ. และ บริษัท ปตท. ด้วยว่า ครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบในระดับห้องปฏิบัติการ (Laboratory scale) การถ่ายทอดเทคโนโลยีจนถึงระดับอุตสาหกรรม (Industrial scale) ตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (Feasibility Study) ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์

ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลความร่วมมือ รัฐ-เอกชน ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยา ขณะเดียวกันการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยนักวิจัยไทยก็มีความก้าวหน้าไปมากเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทย ระยะยาวนำไปสู่การลดการนำเข้า และยังเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งบุคคลากรมีทั้งความรู้และนำไปต่อยอดเพื่อการผลิตขายต่อไปด้วย

Related Post
ไข้หวัดนก

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ได้รับการยืนยันว่า ชายชาวมณฑลเจียงซูคนหนึ่ง เป็นมนุษย์คนแรกที่ติดโรคไข้หวัดนกชนิดหายาก ที่เกิดจากไวรัส H10N3

วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี แถลงข่าว “ความคืบหน้า วัคซีน บูสเตอร์ Read more

ขสมก.

เตรียมพร้อมเข้าสู่ Cashless Society ด้วยการรับชำระค่าโดยสารผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก.

15/07/2021 รอยยิ้มท่ามกลางวิกฤต เจ้าหน้าที่สวมชุด PPE ยกเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดผู้ป่วยกลาง รพ.สนาม

รอยยิ้มท่ามกลางวิกฤต เจ้าหน้าที่สวมชุด PPE ยกเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดผู้ป่วยกลาง รพ.สนาม

รอยยิ้มท่ามกลางวิกฤต เจ้าหน้าที่สวมชุด PPE ยกเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดผู้ป่วยกลาง รพ.สนาม

ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ที่ตึงเครียดจากการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน แต่ในมุมเล็กๆ ก็ยังมีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Pause Indy ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอจากโรงพยาบาลสนาม ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เข้าดูแลรักษา พร้อมกับบรรยายข้อความว่า “ภายใต้ความโชคร้ายยังมีสิ่งที่ดีๆรอบตัวเราอีกมากมาย #HBD #เข้มแข็งนะครับทุกๆ คน สู้ๆ #เราต้องข้ามผ่านมันด้วยไปกัน #savechiangmai”

โดยโพสต์ดังกล่าวบอกเล่าเรื่องราวความน่ารัก ที่ทางทีมงานแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันสร้างเซอร์ไพรส์อวยพรวันเกิดให้กับผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งที่มีครบรอบวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 13 ก.ค.64 ระหว่างรักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่จำนวน 4 คนสวมใส่ชุด PPE พร้อมกับถือเค้กวันเกิดเข้าไปอวยพรให้กับผู้ป่วยรายนี้ถึงเตียง ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งร่วมอวยพรผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์และเปิดเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ผ่านทางเครื่องขยายเสียง โดยผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่อยู่ในโรงพยาบาลสนามต่างพร้อมใจกันร่วมอวยพรวันเกิดให้กับผู้ป่วยรายนี้ด้วย

ทั้งนี้หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าบรรดาผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างแสดงเข้าไปแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก โดยต่างชื่นชมและประทับใจกับเรื่องราวความน่ารักที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่เป็น โดยต่างมองว่าเป็นความหวังกำลังใจให้กันและกันท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกอย่างดูเลวร้าย พร้อมทั้งให้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกคนในการทำงาน ขณะเดียวกันพบว่าผู้ป่วยที่เป็นเจ้าของวันเกิดได้เข้ามาแสดงความเห็นขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน

Related Post
ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร

ล่าสุดมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย "ผู้ว่าฯหมูป่า"  ให้มาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

หน้ากากอนามัย

WHO ระบุว่า หน้ากากอนามัยปกติสามารถป้องกันเชื้อไวรัสที่มากับละอองฝอยน้ำลายของผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้มากถึง 95%

วัคซีนไฟเซอร์

แฟนเพจอย่างเป็นทางการของสถานทูตสหรัฐ ประจำกรุงเทพมหานคร โพสต์ชุดรูปภาพ ชี้แจงการคำนวณวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 1,503,450 โดส