กระทรวงการคลังเตรียมปรับตัวเชื่อมต่อ “คนละครึ่ง – ยิ่งใช้ยิ่งได้” ปรับตัวเข้ากับ Delivery เพิ่มความสะดวกมากขึ้น

หลังจากเกิดความสับสน และ เรียกร้องจากผู้ใช้งานของสวัสดิการของรัฐอย่าง “คนละครึ่ง – ยิ่งใช้ยิ่งได้” ที่อยากให้เข้าสู่ระบบของเดลิเวอร์รี่ เพื่อตอบสนองนโยบายในการใช้ชีวิตในช่วง Lockdown แบบ New Normal  และยังช่วยผู้ประกอบการ และ ประชาชนให้สะดวกสบายมากขึ้น

ก็ดูจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะ กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเชื่อมต่อระบบ Platform Delivery การส่งสินค้า อาหารและบริการต่าง ๆ เข้ากับระบบโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาระบบ คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่จะทำการเติมเงินคนละครึ่งรอบที่ 2 เข้าแอพพริเคชั่น เป๋าตังอีก 1,500 บาท

เบื้องต้นมีผู้ประกอบการ Delivery ที่คาดว่าจะเข้าร่วมโครงการฯ อาทิ ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า โรบินฮู้ด แกร็บฟู้ด และช้อปปี้ฟู้ด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะเชื่อม Platform Delivery สำหรับผู้ให้บริการส่งสินค้าประเภทอาหารที่จดทะเบียนนิติบุคคลที่เข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ได้ด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ร่วมโครงการ “คนละครึ่ง – ยิ่งใช้ยิ่งได้” มีการจับจ่ายใช้สอยที่คล่องตัวมากขึ้นแล้ว ยังสอดคล้องกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว และช่วยทำให้ยอดการใช้จ่ายในโครงการเพิ่มขึ้นอีกด้วย

Related Post

เฌอปราง ในมุมใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยมีแฟนๆ มาร่วมในงาน Cherprang’s Photobook Fansign Event กันอย่างล้นหลาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ Read more

เทรนด์เที่ยวกำลังเปลี่ยนไปนะรู้ยัง … ตอนนี้เทรนด์การท่องเที่ยวสีเขียวกำลังได้รับความสนใจในวงกว้างสำหรับนักเดินทางยุคใหม่

Havaianas (ฮาวายานัส) แบรนด์รองเท้าแตะสัญชาติบราซิล ที่มอบความสนุกในทุกก้าวของทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เปิดตัวพรีเซนเตอร์หลัก

คลัง ย้ำใช้สิทธิ์ “คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้” ผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ไม่ได้ แต่พร้อมพิจารณาร่วมกับเอกชนอีกครั้ง

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีผู้ให้บริการแฟลตฟอร์มส่งอาหารเดลิเวอรี่ (delivery) รายหนึ่ง ได้มีการให้บริการชำระเงินค่าอาหารด้วยสิทธิในโครงการ “คนละครึ่งเฟส3” นั้น ว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นการใช้สิทธิผ่านคนกลาง และที่ผ่านมาผู้ให้บริการดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาตดำเนินการมายังกระทรวงการคลังแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังจะมีการส่งหนังสือแจ้งตักเตือนไปยังผู้ประกอบการรายดังกล่าว ส่วนจะมีการพิจารณาบทลงโทษหรือไม่ยังต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง

โดยโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสมาคมภัตตาคารไทย เตรียมเสนอขอให้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง และ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ในการสั่งซื้ออาหารผ่านผู้ประกอบการแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการงดนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน ว่า หากมีการเสนอเข้ามา ก็จะพิจารณาและหารือในรายละเอียดก่อน โดยต้องดูเงื่อนไขต่างๆ ในการเข้าร่วม รวมถึงขั้นตอนการเชื่อมโยงระบบข้อมูลด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

Related Post

อังกฤษประกาศบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 415,000 โดส ให้แก่ประเทศไทย พร้อมนำส่งถึงไทยในเดือนหน้า

มูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค (LOVEiS Music Foundation) จากปณิธานและการก่อตั้งโดย คุณเทพอาจ กวินอนันต์ Read more

นักออกแบบอุตสาหกรรมเกาหลีสุดเจ๋ง! ผลิต 'ดวงตาที่ 3' อุปกรณ์ช่วงเลี่ยงอุบัติเหตุ สำหรับคนติดมือ

ส่อเลื่อน”คนละครึ่ง” ยืด “เราชนะ-เรารักกัน”

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้ยกเลิกการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยมีการเรียกประชุมคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจเป็นการด่วน เพื่อหามาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ หลังมีการประกาศปิดพื้นที่และกิจการบางจุด เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด -19

“ยังไม่ทราบวาระการประชุมทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะมีการหารือเรื่องการเลื่อนโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่มวันที่ 1 ก.ค. นี้หรือไม่ และจะมีมาตรการเศรษฐกิจอื่นเข้ามาเสริมแทนหรือไม่” นายอนุชา กล่าว

รายงานข่าวจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า คาดว่าจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีการปิดหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถออกไปใช้จ่ายได้ ทำให้กระทรวงการคลัง อาจจะเสนอให้เลื่อนโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ก.ค.2564 นี้ออกไปอย่างน้อย 1 เดือน

ทั้งนี้ จะต้องหารือร่วมกับนายกฯอีกครั้งเพราะยังมีบางแนวคิดให้คงระยะเวลามาตรการตามเดิมไว้ จึงต้องพิจารณาความเหมาะสมให้รอบด้าน หากมีการเลื่อน สศช.ก็ต้องเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือน ก.ค.นี้ เพราะมติ ครม.กำหนดให้ เริ่มมาตรการ 1 ก.ค.2564

นอกจากนี้ อาจมีการพิจารณาเสนอให้นายกฯจ่ายเงินเพิ่มใน มาตรการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน ที่กำลังสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย. 2564 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนให้กับแรงงานและประชาชนทดแทนไปก่อนเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนจำนวนเงินจะให้เท่าไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี โดยแหล่งเงินจะใช้จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท

Related Post

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ของจีน แถลงในวันพุธ (22 ก.ย.) ว่า ในกลุ่มผู้ติดเชื้อในชุมชนรายใหม่จำนวน 16 ราย

วิษณุ กล่าวว่า ถ้าเป็นกรณีที่นำเสนอข้อเท็จจริงแต่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวจะถือว่ามีความผิดหรือ? ว่าหากเสนอข่าวข้อเท็จจริงไม่ถือว่ามีความผิด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบคำถามสำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ เรียกร้องให้เปิดดำเนินกิจการก่อนวันที่ 16 มกราคม 2565