“บริทนีย์” สุดทนออกแถลงการณ์ แฉ พ่อบงการชีวิตเยี่ยงทาส
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา วันที่ บริทนี่ย์ ออกมาพูดเองแล้วจากปากต่อหน้าศาล แปลแถลงการณ์ ได้ความว่า เธอบอกว่าเธอถูกกดขี่ บังคับ ให้อยู่ในการควบคุมนี้ทุกอย่าง ไม่ได้มีชีวิตเป็นของตัวเอง ต้องถูกสั่งให้ทำตามที่เขาต้องการ ไม่มีอิสระที่จะคิดและทำอะไรด้วยตัวเองเลย ทั้งให้อัดคลิปว่าสบายดี ไม่มีอะไร แต่ความจริงถูกสั่งให้โกหกกับทุกคน
เธอไม่สามารถออกมาพูดต่อสื่อได้ เพราะคนไม่เชื่อเธอ เธอรู้สึกว่าทีมงานแกล้งนาง บูลลี่ ต้องอยู่ในสภาพนี้โดยไม่มีเพื่อนที่เข้าใจ รู้สึกโดดเดี่ยว ถูกทิ้ง ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึก
เธอรู้สึกโกรธมาก เครียด ไม่มีความสุข ในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เพราะว่า พ่อ ทีมงานพ่อ และทีมแมนเนจเม้นท์ทั้งหลายควรต้องเข้าคุกเพราะสิ่งที่พวกเขาเกินจะทนไหว พวกเขาทำลายชีวิตเธอทุกอย่าง ศาลควรจะอนุญาตให้ทุกคนได้รับรู้ข้อมูลนี้ด้วย
เธอยังกล่าวว่า เคสของเธอมันไม่ต่างอะไรกับกรณีการค้ามนุษย์ ที่จับตัวเด็กผู้หญิงที่เขาไม่ได้เต็มใจมาบังคับขู่เข็ญ ให้สนองความต้องการในสิ่งที่คนอื่นต้องการ เธอถูกจับไปให้หมอใส่ห่วงคุมกำเนิด ทำให้นางไม่สามารถมีลูกได้ ไม่สามารถขับรถเองได้ แม้กระทั่งจะกินกาแฟ 1 แก้ว ก็ต้องลงลิสในรายการว่าจะเอาเงินไปซื้ออะไร ไม่มีเพื่อน ไปเจอเพื่อนๆไม่ได้ เพราะถูกกีดกัน
เธอถูกรักษาด้วย Lithum ลิเทียม ซึ่งพอเธอไม่ทำตามสั่ง พ่อก็จะฟ้องหมอ ให้หมอเปลี่ยนยาให้นางแรงขึ้น จนนางมีอาการเหมือนจะเมา โดนบังคับให้ออกทัวร์ Domination ทั้งทีไม่อยากทำ และยังให้เวลาในการซ้อมน้อยมากเพียง 3 เดือน และถูกบังคับให้ทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ ริบบัตรเครดิต พาสปอร์ต เงินทองทุกอย่าง ร่วมทั้งมี หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่คอยจับตาตลอด 24 ชม. ในทุกอิริยาบทไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย จนเธอรู้สึกเหมือนตัวนางได้ตายไปแล้ว
ซึ่งเธอจะไม่ทนอีกต่อไป ขอให้ conservatorship นี้สิ้นสุดโดยเร็วที่สุด และไม่ขอให้มีกระบวนการประเมินเธอเหมือนตอนที่ทำกับเธอตอนที่จับนางเข้ามาใน conservatorship นี้ในตอนแรก อีกแล้ว มันต้องพอได้แล้ว
เราก็ได้แต่หวังว่า คดีนี่ระหว่างเธอและครอบครัว จะพบทางออกที่ดีที่สุดเสียที เพื่อชีวิตที่มีความสุขของซุปเปอร์สตาร์สาวต่อไป
