ชาวเกาหลีใต้เตรียมรับสิทธิ์เด็กลง 1 ปี
หลังรัฐบาลปรับเกณฑ์การนับอายุประชาชนในประเทศให้เป็นสากล
ดีใจแทนคนเกาหลีจริงๆ เร็ว ๆ นี้ ชาวเกาหลีใต้จะได้รับสิทธิ์ “เด็กลง 1 ปี” เป็นอย่างน้อย หากว่าที่ผู้นำคนใหม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่า จะยกเลิกวิธี “นับอายุ” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกาหลีใต้ และใช้วิธีนับอายุแบบสากลแทน
หากใครที่สนใจและติดตามในวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีใต้นั้น ก็จะทราบกันเป็นอย่างดีว่าระบบการนับอายุของคนเกาหลีแตกต่างจากการนับอายุแบบสากล โดยการนับแบบเกาหลีนั้นจะเริ่มนับอายุ 1 ปี ตั้งแต่วันแรกที่เด็กได้คลอดออกจากครรภ์แม่ ซึ่งนับเป็นอายุที่ทารกอยู่ในครรภ์แม่ 9 เดือน และปัดขึ้นเป็น 1 ปี ในวันที่คลอดออกมาแล้วนั่นเอง
แม้ว่ารัฐบาลเกาหลีใต้หลายสมัยได้พยายามแก้ไขและปรับเปลี่ยนการนับอายุแบบเกาหลีให้เป็นไปตามหลักสากล แต่ยังไม่สำเร็จนั้น ก็ไม่ได้ทำให้นโยบายดังกล่าวนี้ถูกล้มเลิกไป ล่าสุด “ยุนซอกยอล” อดีตอัยการสูงสุด วัย 61 ปี ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 20 เกาหลีใต้ เตรียมเข้ารับตำแหน่งผู้นำอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ค.นี้ โดยคณะทำงานของเขา ชูแผนการปรับเกณฑ์การนับอายุประชาชนในประเทศให้เป็นสากล ซึ่งจะทำให้ชาวเกาหลีใต้ มีอายุเด็กลงอย่างน้อย 1 ปีตามนโยบายที่ได้กล่าวไว้ตอนช่วงหาเสียง
ยุน ระบุว่า เกณฑ์การนับอายุแบบสากลจะกลายเป็นมาตรฐานเดียวทั้งในด้านกฎหมายและด้านสังคม แต่จะมีการปรับเปลี่ยนไปเป็นระยะ ๆ เนื่องจากความสลับซับซ้อนของวิธีการนับอายุดั้งเดิม
“อายุเกาหลีไม่ได้ผิดอะไร มันเป็นเพียงธรรมเนียมทางวัฒนธรรมขงจื๊อ แต่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อลดช่องว่างระหว่างธรรมเนียมกับสถาบัน และเพื่อส่งเสริมการใช้คำสั่งทางการที่สอดคล้องกันและมีความชัดเจน” ฮัน แซ-อก ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยดงอาในเมืองปูซาน กล่าว
และดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะสำเร็จ โดยเหล่านักวิเคราะห์ชี้ว่าจากการที่พรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายรวมไปถึงประชาชนส่วนมากให้การสนับสนุนการปรับปรุงแผนดังกล่าว อาจจะทำให้การปรับเกณฑ์นับอายุในแบบเกาหลีถูกเปลี่ยนเป็นนับตามหลักสากลได้ในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก ww.bangkokbiznews.com
NEW YORK TIME เผยข้อมูล สหภาพยุโรป (อียู) มีมติเห็นชอบเมื่อวันพุธ (19 พ.ค.) ให้เปิดพรมแดนแก่นักเดินทางจากภายนอกอีกครั้ง
ธนาคารได้ยกเลิกระบบการให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลทั้ง 3 ส่วนออกจากแอปฯเป๋าตัง สำหรับผู้ใช้งานที่ได้กดให้ความยินยอมไปแล้ว ระบบจะทำการยกเลิกให้โดยอัตโนมัติ
เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานโดยอ้างอิงงานวิจัยชิ้นใหม่ที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเมื่อราว 20,000 ปีก่อน
