ข่าวดี ไฟเซอร์จะเป็นวัคซีนเต็มรูปแบบ สามารถใช้และจำหน่ายได้ทั่วไป ไม่ต้องเป็นวัคซีนฉุกเฉินที่ต้องเป็นรัฐต่อรัฐ
ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ก็คือการจัดอยู่ในหมวดวัคซีนได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization : EUA) ทำให้การจัดซื้อจัดหา ต้องทำกันในระบบรัฐต่อรัฐเท่านั้น (ปัจจุบันมีเพียง 6 หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าได้)
ซึ่งล่าสุด ดูจะมีข่าวออกมาสะพัดว่า “บริษัทไฟเซอร์ไบโอเอนเทค” เดินหน้าเต็มที่ขออนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) เพื่อเป็นวัคซีนเต็มรูปแบบ จากการเปิดเผยของวอลล์สตรีทเจอร์นัลที่นำเสนอข่าวนี้ ระบุเพิ่มเติมว่า “บริษัทไฟเซอร์ไบโอเอนเทค” ยื่นข้อมูลการทดลองระยะยาวจากอาสาสมัครกว่า 46,000 คน ผลการทดลองพบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิดได้สูงถึง 91.3% หลังจากได้รับวัคซีนโดสที่ 2 จาก 2 โดสเป็นเวลานานถึง 6 เดือน ส่วนข้อมูลที่ยื่นขอใช้ฉุกเฉินนั้น ใช้อาสาสมัครทดลองเพียง 38,000 คน วัดผลหลังฉีดวัคซีนครบ 2 โดสเพียง 2 เดือน ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อ 94%
ขณะที่ สำนักข่าวสารสหรัฐอเมริกา (VOA) เปิดเผยขั้นตอนที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐ FDA ใช้อนุมัติวัคซีนโควิด-19 กำลังเร่งพิจารณาวัคซีนที่ผลิตโดยไฟเซอร์ โมเดอร์นาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนอเมริกันว่ามีความปลอดภัย
ทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐ FDA โดย ดร.ปีเตอร์ มาร์ค กล่าวว่าการที่ตรวจสอบได้เร็วขึ้นอยู่กับการเลื่อนความสำคัญขึ้นมาก่อนหน้าวัคซีนชนิดอื่น ๆ และใช้เวลาในการพิจารณาเพียง 6 เดือนจากปกติราว 10 เดือน โดยยังคงขั้นตอนทุกอย่าง เพียงแต่เพิ่มคนให้มากขึ้น โดยจะไม่มีการใช้ทางลัดหรือละเลยเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ดี เราก็คงจะต้องติดตามข่าวเรื่องของวัคซีนต่างๆ กันอย่างใกล้ชิด และ ต่อเนื่องในทุกประเด็นต่อไป เพื่อปรับปรุงการจัดการสถานการณ์โควิด-19 ในบ้านเราต่อไป
วันที่ 22 ก.ย. เฟจเฟซบุ๊ก "กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข" โพสต์ข้อความและภาพเชิญชวนให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนชิโนแวคครบ 2 เข็ม ก่อนวันที่
ผู้ว่าฯ ปู บอกไม่ท้อกับงานที่สมุทรสาคร วอนประชาชนร่วมกันทำงาน เรื่องลาออกแค่ "จิ๊บจ๊อย"
ระบบ Home Isolation ของ กทม. ยึดรูปแบบการรักษาที่บ้านตามหลักสากล ทำให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงยาและแพทย์ได้เร็วกว่าการรอเตียง
