site loader
site loader
11/08/2021 ครบ 7 ปี ขอแก้ข่าวให้เพื่อนหน่อย! Jessie J ขอโทษ Nicki Minaj หลังเข้าใจผิดเรื่องการทำงานร่วมกันในเพลง Bang Bang

ครบ 7 ปี ขอแก้ข่าวให้เพื่อนหน่อย! Jessie J ขอโทษ Nicki Minaj หลังเข้าใจผิดเรื่องการทำงานร่วมกันในเพลง Bang Bang

ครบ 7 ปี ขอแก้ข่าวให้เพื่อนหน่อย! Jessie J ขอโทษ Nicki Minaj หลังเข้าใจผิดเรื่องการทำงานร่วมกันในเพลง Bang Bang

Jessi J ออกมาโพสต์ Instagram ขอโทษ Nicki Minaj หลังเธอได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Glamour เกี่ยวกับการทำงานในเพลง Bang Bang ซิงเกิลฮิตที่โปรดิวซ์โดย Max Martin และฟีเจอริงร่วมกับ Ariana Grande และ Nicki Minaj

โดยในตอนนั้น Jessie J เล่าว่าตอนกำลังทำงานและอัดเพลง Bang Bang ร่วมกับ Ariana Grande อยู่ Nicki Minaj ได้ติดต่อมาเพื่อขอมีส่วนร่วมด้วย แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น เพราะภายหลังบทสัมภาษณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป Nicki Minaj  ก็ Twitter ว่าจริงๆ แล้ว สาเหตุที่เธอได้เข้าไป Feat. ด้วยก็เพราะค่ายของ Jessie J ติดต่อมาและจ่ายเงินให้เธอ

“ฉันเป็นคนแรกที่ยอมรับว่า Bang Bang จะไม่ออกมาเป็นบทเพลงที่ยอดเยี่ยมแบบนี้หากปราศจากพวกเธอ Ariana และ Nicki ฉันขอโทษที่เข้าใจเบื้องหลังการทำเพลงนี้แบบผิดๆ มาตลอดหลายปี มีคนบอกฉันว่าเมื่อ Nicki ได้ฟังเพลงนี้เธอก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วม ขอบคุณมากที่เธอออกมาชี้แจงและบอกให้รู้ว่าฉันเข้าใจผิด” Jessie J กล่าว

สุดท้ายก็จบเรื่องดราม่าด้วยดี แฟนๆ ก็คงจะได้เห็นเพลงดีๆ จากพวกเธออีกแน่นอน

Related Post
จั๊กจั่น

“จั๊กจั่น” มาเล่าย้อนถึงวันโดนขอแต่งงาน ผ่านทางรายการเพื่อนสาวสุดซี้ ใน ทอล์ก กะ เทยส์” ที่ภาพลง IG สวยเป๊ะ Read more

เจมส์ ธีรดนย์ สุดเศร้า เล่าความในใจ หลังสูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

“JAY B” Encore in BANGKOK อ้อนแฟนไทย

ฟินกันทั้งฮอลล์! กับคอนเสิร์ตปิดท้ายเวิลด์ทัวร์ในประเทศไทยกับงาน “2022 WORLD TOUR JAY B TAPE: PRESS PAUSE Read more

11/08/2021 จะถ่ายไม่ว่า เบลอหน้าให้ด้วย Gigi Hadid ขอ ปาปารัซซี่ เบลอหน้าลูกน้อยของเธอ

จะถ่ายไม่ว่า เบลอหน้าให้ด้วย Gigi Hadid ขอ ปาปารัซซี่ เบลอหน้าลูกน้อยของเธอ

จะถ่ายไม่ว่า เบลอหน้าให้ด้วย Gigi Hadid ขอ ปาปารัซซี่ เบลอหน้าลูกน้อยของเธอ

หลายๆ คนคงทราบแล้วว่า Gigi Hadid เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งเรียบร้อยแล้ว แต่จนกระทั่งถึงวันนี้ เหล่าแฟนคลับก็ยังไม่เคยได้เห็นใบหน้าของ Khai ลูกสาวของเธอแบบชัดเจนสักครั้ง   กระทั่งล่าสุดเปิดประเด็นนี้อีกครั้ง ว่า Gigi ได้ร้องขอให้เหล่าปาปารัซซี่ และแฟนคลับที่ถ่ายภาพติดหน้าลูกสาวของเธอ ช่วยเบลอหน้าลูกสาวของเธอในรูปถ่ายเหล่านั้น อันเนื่องมาจากเหตุผลของ “ความเป็นส่วนตัว” ที่เธออยากจะหวงแหนเอาไว้ให้กับลูกสาวของเธอมากที่สุด

ซึ่งปัจจุบัน หนูน้อย Khai มีอายุกว่า 10 เดือนแล้ว แม้แต่ในโซเชียลมีเดีย ส่วนตัวของ Gigi ก็ยังไม่ได้เห็นใบหน้าชัดๆ ของหนูน้อยด้วย ซึ่ง Gigi เองได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า  “สำหรับสื่อมวลชน ไปจนถึงเหล่าแฟนคลับ ทุกคนต่างทราบกันดีว่าฉัน ไม่ได้มีความต้องการที่จะเผยแพร่ภาพใบหน้าของลูกสาวของฉันบนโลกโซเชียลมีเดียในเวลานี้ ฉันอยากให้ลูกสาวของฉันเป็นคนตัดสินใจเปิดเผยตัวเองต่อหน้าสาธารณชนเมื่อถึงเวลาที่เขาพร้อม และฉันอยากให้ลูกสาวของฉันได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแบบคนทั่วไป ตราบใดที่เขายังไม่ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าอยากจะเป็นคนดังหรือไม่”

นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นน่าสนใจเพราะในปัจจุบันหลายประเทศได้บรรจุเป็นหนึ่งในมาตรากฎหมายสำคัญ เพื่อคุ้มครองสิทธิเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าทายาทคนดังที่มักจะถูกคุกคามอยู่เสมอ จนบางกรณีส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของเด็กที่ยังไม่พร้อมรับมือกับความดังที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนเลือกเองอีกด้วย

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเราจะอยากเห็นใบหน้าอันน่ารัก น่าชังของหนูน้อยขนาดไหน ก็ควรจะต้องเคารพการตัดสินใจของ Gigi ด้วย แต่เชื่อว่าโตมาจะต้องสวยเป๊ะ เหมือนคุณแม่แน่ๆ เลย

Related Post
คิม

“คิม คาร์เดเชียน” และ “คานเย่ เวสต์” อดีตคู่สามีภรรยาโด่งดังตัดสินใจที่จะหย่าร้างกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 ที่ผ่านมา

วีณา ซิงห์

“วีณา ซิงห์” นางงามไทย สัญชาติไทย เชื้อสายอินเดีย ประกาศแจ้งข่าวแฟนนางงาม ว่าแฟนหนุ่มนักธุรกิจชาวอินเดีย  คุกเข่าขอแต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หมดข้อสงสัย เป้ อารักษ์ ยอมเปิดใจ "เป็นแฟนกันครับ และผมก็ไม่ได้ปิดเลย นานแล้ว แต่ไม่ได้โพสต์ ไม่ได้แชร์ ไม่ได้อยากให้มาเจอเรื่องดราม่าในชีวิต

11/08/2021 ชาวจีน 25 ล้านคน  ร่วมลงชื่อจี้ WHO สอบแล็บสหรัฐฯ อาจเป็นต้นตอ Covid-19

ชาวจีน 25 ล้านคน ร่วมลงชื่อจี้ WHO สอบแล็บสหรัฐฯ อาจเป็นต้นตอ Covid-19

ชาวจีน 25 ล้านคน  ร่วมลงชื่อจี้ WHO สอบแล็บสหรัฐฯ อาจเป็นต้นตอ Covid-19

โกลบอลไทมส์ สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง รายงานอ้างว่า ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตชาวจีนจำนวน 25 ล้านรวมลงชื่อผ่านแคมเปญรณรงค์ทางออนไลน์ เรียกร้องให้อนามัยโลก (WHO) เปิดการสอบสวนห้องแล็บในสถานีวิจัยโรคติดเชื้อของกองทัพสหรัฐฯ ที่ฐานทัพ Fort Detrick เพื่อค้นหาต้นต่อของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เหมือนดังเช่นที่อนามัยโลกเคยเข้ามาสอบสวนสถาบันวิจัยไวรัสวิทยาในอู่ฮั่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

คำร้องของชาวเน็ตจีนยังระบุอีกว่า  Biolab ของ Fort Detrick เป็นสถานที่จัดเก็บเชื้อไวรัสอันตรายไว้หลายชนิดซึ่งสื่อจีนอ้างว่ามีบันทึกการรั่วไหลเมื่อปี 2019 ก่อนเกิดเหตุการณ์ระบาดใหญ่

สำหรับเว็บไซต์ที่ชาวจีนลงชื่อยื่นคำร้องนั้น เป็นไมโครเว็บที่โกลบอลไทมส์สร้างขึ้นสำหรับการรณรงค์แคมเปญนี้โดยเฉพาะ นับตั้งแต่เปิดเว็บไซต์ดังกล่าวมีชาวจีนร่วมลงชื่อไม่น้อยกว่า 5 แสนรายชื่อในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง จากนั้นเพิ่มเป็น 1 ล้านรายชื่อ ใน 48 ชั่วโมง โดยสื่อจีนยังอ้างด้วยว่า เพียงไม่นานหลังเปิดเว็บรณรงค์ ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์อย่างหนักจาก IP Address ที่อยู่ในสหรัฐฯ หลายแห่ง

ทั้งนี้ สื่อของรัฐบาลจีนยังได้อ้างว่า ทราบจากแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า วอชิงตันมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเปิดดำเนินการสอบสวนต้นต่อของโควิดในจีนอีกครั้ง แม้ว่าเชื่อว่าจะไม่พบหลักฐานสาระสำคัญก็ตาม และหากการสอบสวนที่นำโดยสหรัฐฯ จบลงโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น สหรัฐฯยังคงสามารถประกาศได้ว่า “ความล้มเหลวในการค้นหาว่าไวรัสมาจากไหนนั้นเกิดจากการที่จีนปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูลและให้ความร่วมมือสอบสวนอย่างเปิดเผย” ดังนั้นจีนจึงต้องรับผิดชอบใน “ความทุกข์ของโลก” ยิ่งจีนต่อต้านมากเท่าไร สหรัฐฯก็ยิ่งมีเหตุผลมากขึ้นที่จะต้องรวมตัวกับชาติพันธมิตรเพื่อกดดันจีนให้มากยิ่งขึ้น

Related Post
LEO Aqua Fest

เรียกว่านับถอยหลังอีกไม่นาน ความมันส์ของคอนเสิร์ตแห่งปีจะระเบิดขึ้นอีกครั้ง กับ LEO Presents Flex Aqua Fest 2023 ในวันเสาร์ที่ Read more

นักออกแบบอุตสาหกรรมเกาหลีสุดเจ๋ง! ผลิต 'ดวงตาที่ 3' อุปกรณ์ช่วงเลี่ยงอุบัติเหตุ สำหรับคนติดมือ

Rapid Antigen Test

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เปิดเผยว่าจะมีการปลดล็อก ชุดตรวจโควิด-19 แบบ Rapid Antigen Test เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้มากขึ้น

11/08/2021 สื่อชาวญี่ปุ่น เผยแพร่ข่าว “หนูแดง” เจ้ารถไฟฟ้าสายสีแดง ของประเทศไทย ชาวญี่ปุ่นต่างแห่คอมเมนต์น่ารักเพียบๆ

สื่อชาวญี่ปุ่น เผยแพร่ข่าว “หนูแดง” เจ้ารถไฟฟ้าสายสีแดง ของประเทศไทย ชาวญี่ปุ่นต่างแห่คอมเมนต์น่ารักเพียบๆ

สื่อชาวญี่ปุ่น เผยแพร่ข่าว “หนูแดง” เจ้ารถไฟฟ้าสายสีแดง ของประเทศไทย ชาวญี่ปุ่นต่างแห่คอมเมนต์น่ารักเพียบๆ

หลังจากเริ่มเปิดการทดลองเรียบร้อยแล้วสำหรับ การวิ่ง “รถไฟฟ้าสายสีแดง” ของประเทศไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมเปิดทดลองเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (Soft Opening) โดยระบุว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมทุกด้าน เพื่อเปิดให้ประชาชนเริ่มเข้าทดลองใช้บริการรถไฟสายสีแดงแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่  2 ส.ค. ที่ผ่านมา  ซึ่งแน่นอนว่า นวัตกรรมของรถไฟฟ้าสายสีแดง ในครั้งนี้ เป็นนวัตกรรมจาก บริษัท Hitachi สื่อญี่ปุ่นจึงขอทำข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้าของไทยสายสีแดงด้วย ซึ่งเพจ ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น เห็นข่าวนี้ จึงนำมาเขียนคอนเทนท์สรุปคอมเมนต์น่ารักๆ ไว้เพียบเลย โดยแต่ละคอนเมนต์น่ารักในสไตล์ชาวญี่ปุ่นจริงๆ บางก็บอกว่า อย่าทำให้คนไทยเสียใจนะ จงดูแลรักษามันดีๆ, ผมอยากไปนั่ง หากได้ไปเมืองไทย , ถ้าคุณขึ้นรถไฟในประเทศที่ร้อน ต้องมีเครื่องดื่มเย็นๆ จะสดชื่น , ภูมิใจๆ , ทำไมรถไฟต่างประเทศมีเสากลางด้วย? , ประเทศไทยกำลังจะดูทันสมัยแล้ว , หรือจะหวานจับใจอย่าง ญี่ปุ่น-ไทย เราคือเพื่อนกัน !! เอาละ ใครที่อยู่ใกล้ๆ ก็ลองไปทดลองใช้ได้ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงทดลองวิ่งเปิดให้ขึ้นฟรีก่อนที่จะเก็บค่าโดยสารในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้นะครับ

ขอขอบคุณ เนื้อหาบางส่วนจากเพจ ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น ด้วยนะครับ

Related Post
APPLE

บัญชีผู้ใช้นามว่า Kang บนเว็บไซต์เว่ยป๋อ (Weibo) เปิดเผยว่า ตัวเขาและมือดีที่มีข้อมูลข่าวสารในเชิงลับเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล (Apple) 

ทนายแก้ว ทนายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ทนายโซเชียล ทนายเซเลปคนดัง ของรายการข่าวหลากหลายรายการ ออกโรงคดีดัง BMZ4 ซิ่งชนยับที่เพชรบูรณ์

แอน จักรพงษ์

แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์  โพสต์ข้อความระบุว่า ตนอยากช่วยร้านอาหารที่มีปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากมาตรการการควบคุมโรคโควิด-19 ของภาครัฐ