site loader
site loader
24/09/2021 สธ.เชิญชวนผู้ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 โดสก่อน 31 พ.ค. ไปฉีดเข็ม 3 ตั้งแต่ 24 ก.ย.

สธ.เชิญชวนผู้ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 โดสก่อน 31 พ.ค. ไปฉีดเข็ม 3 ตั้งแต่ 24 ก.ย.

สธ.เชิญชวนผู้ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 โดสก่อน 31 พ.ค. ไปฉีดเข็ม 3 ตั้งแต่ 24 ก.ย.

วันนี้ (22 ก.ย.) เฟจเฟซบุ๊ก “กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข” โพสต์ข้อความและภาพเชิญชวนให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนชิโนแวคครบ 2 เข็ม ที่ได้รับเข็ม 2 ก่อนวันที่ 31 พ.ค. 2564 เข้ารับเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 โดยสามารถดำเนินการได้ 2 วิธี ได้แก่

  • ผู้ที่ได้รับเข็มที่ 2 จากศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ติดต่อผ่านทาง Call Center ของ AIS true dtac
  • ผู้ที่อยู่ปริมณฑลและต่างจังหวัด ติดต่อผ่านทางโรงพยาบาลที่รับบริการก่อนหน้านี้ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)

 

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “CVC กลางบางซื่อ” โพสต์ข้อความและภาพประกาศการให้บริการวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster dose) โดยมีรายละเอียดดังนี้

กลุ่มเป้าหมาย

  • เป็นผู้ที่เคยได้รับวัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 และ 2 (สูตร SS) จากศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ในเดือน พฤษภาคม 2564 จะได้รับวัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
  • โดยทางศูนย์ฯ จะใช้ฐานข้อมูลเดิม ส่ง sms ให้ท่านเพื่อยืนยันวันนัดฉีดล่วงหน้า และท่านสามารถตรวจสอบวันเวลานัดฉีดด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น “Vaccine บางซื่อ”

 

สถานที่รับวัคซีน

  • ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ประตู 1, 2, 3, 4 เวลา 9.00- 17.00 น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงต่อไป

ขอสงวนสิทธิ์ #งดให้บริการ กรณีที่มาไม่ตรงวันที่นัดหมาย

หมายเหตุ : ท่านที่สมัครใจรับวัคซีนเข็มกระตุ้น โปรดมารับวัคซีนตรงตามวันและเวลานัด

Related Post
แอสตร้าเซนเนก้า

แอสตร้าเซนเนก้า พีแอลซี เผยการศึกษาคอกเทลแอนติบอดี ว่ามีประสิทธิภาพแค่ 33% ในการป้องกันอาการโรคโควิด-19 สำหรับคนที่เคยติดไวรัส

ชื่นชม เด็กหนุ่มวัย 17 ปี สอบติด 4 เหล่าทัพ ด้วยคะแนนที่ 1 เผยบ้านยากจนแต่มีมานะ

สสจ.แจงแล้ว ยายวัย​ 70 ​ฉีดแอสตร้าเบิ้ล 2 เข็ม ผิดพลาดจริง ย้ำติดตามดูแลใกล้ชิด

24/09/2021 มาตรการกึ่งเปิด กึ่งปิด จัดการวิกฤต “พบผู้ติดเชื้อโควิด” อีกราย ใน เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียงของจีน

มาตรการกึ่งเปิด กึ่งปิด จัดการวิกฤต “พบผู้ติดเชื้อโควิด” อีกราย ใน เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียงของจีน

มาตรการกึ่งเปิด กึ่งปิด จัดการวิกฤต “พบผู้ติดเชื้อโควิด” อีกราย ใน เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียงของจีน

เมื่อวันที่ 22 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ของจีน แถลงในวันพุธ (22 ก.ย.) ว่า ในกลุ่มผู้ติดเชื้อในชุมชนรายใหม่จำนวน 16 รายที่พบเมื่อวันวันอังคาร ( 21 ก.ย.) ในจำนวนนี้ 3 รายอยู่ในเมืองฮาร์บิน ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นครั้งแรกในเมืองฮาร์บินนับจากวันที่ 4 กุมภาพันธ์ปีนี้ ส่งผลให้ในวันอังคารที่ผ่านมา ทางการจีนออกประกาศในทันทีให้ประชาชนในเมืองฮาร์บินหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกเมือง เว้นแต่มีเหตุผลจำเป็น

สถานที่ในร่มอย่าง โรงภาพยนตร์ สถานออกกำลังกาย และ ที่เล่นไพ่นกกระจอก ถูกปิดให้บริการ ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองฮาร์บินยังถูกสั่งให้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวลงเหลือครึ่งหนึ่งของความจุของสถานที่ที่รองรับได้ และให้ปิดการเรียนการสอนในชั้นเรียนในโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถมและมัธยมทั้งหมดเป็นเวลา 1 สัปดาห์

ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ป่วยโควิดรายใหม่ที่พบ 3 คนในเมืองฮาร์บินนั้น มีความเชื่อมโยงกับเหตุแพร่ระบาดในมณฑลฝูเจี้ยนที่เผชิญอยู่ในขณะนี้หรือไม่ โดยสื่อโทรทัศน์รายงานว่าหนึ่งในผู้ติดเชื้อโควิดที่พบในเมืองฮาร์บิน ถูกตรวจพบหลังจากผู้ติดเชื้อรายนี้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลท้องถิ่น ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 2 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรายแรกที่เดินทางกลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและได้ทำการกักตัวครั้งแรกที่เมืองกวางโจว ก่อนจะกลับมากักตัวต่ออีกครั้งที่บ้านของตนเองในเมืองฮาร์บิน

ทั้งนี้ในมณฑลฝูเจี้ยน มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในเมืองเซียะเหมินและเมืองผู่เตียนรวมกัน 13 ราย เมื่อวันที่ 21 กันยายน ลดลงจากการติดเชื้อรายวันเฉลี่ยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่รองนายกเทศมณฑลฝูเจี้ยนชี้ถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีรายงานลดลงว่าอย่าเพิ่งนอนใจเกี่ยวกับความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในฝูเจี้ยน เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่

Related Post
Lockdown

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต จะเสนอศบค.ในการยกระดับมาตรการทางสังคม ที่สำคัญ คือ การจำกัดการเดินทาง อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ

ร้านโอโนะ คาเฟ่ ร้านกาแฟมินิมอล สไตล์ญี่ปุ่นที่มีเมนูเครื่องดื่มกว่า 60 ชนิด แต่ที่โดดเด่นคือ เครื่องดื่มรวย มีธูปตัวเลขและเทียนกินได้

อย่าหาทำ! นักท่องเที่ยวส่งดินคืนปราสาทพนมรุ้งทางไปรษณีย์ คาดเจออาถรรพ์ เจ้าหน้าที่เผยไม่ใช่รายแรกที่โดน

03/09/2021 นักวิจัยไทยคิดค้นวัคซีนแบบพ่นจมูก เชื่อช่วยแก้วิกฤต

นักวิจัยไทยคิดค้นวัคซีนแบบพ่นจมูก เชื่อช่วยแก้วิกฤต

นักวิจัยไทยคิดค้นวัคซีนแบบพ่นจมูก เชื่อช่วยแก้วิกฤต

เกือบสองปีแล้วที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกคิดค้นและพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 5 ล้านคนทั่วโลก แม้ขณะนี้จะมีวัคซีนโควิดออกมาหลายชนิดและผลิตได้จำนวนมากแล้ว แต่ในเมื่อสงครามกับโรคระบาดครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด การพัฒนาอาวุธจึงยังต้องดำเนินต่อไป

นักวิทยาศาสตร์ไทยที่ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกที่ยังไม่หยุดค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาวัคซีนที่จะมาปกป้องชีวิตคนจากไวรัสร้ายชนิดนี้ โดยล่าสุดโครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 แบบพ่นจมูกของพวกเขากำลังทำอยู่มีความคืบหน้าและให้ผลเป็นที่น่าพอใจ จนหลายคนเชื่อว่าอาจเป็น “ความหวังใหม่” และเป็นวัคซีนที่จะเข้ามา “เปลี่ยนเกมในตลาดวัคซีนโควิด-19” เลยทีเดียว

ดร. อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการของไบโอเทค ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 แบบพ่นจมูกอธิบายว่า ทางเดินหายใจเป็นจุดที่เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกาย การให้วัคซีนด้วยการพ่นที่จมูกจะทำให้เกิดแอนติบอดีตรงบริเวณทางเดินหายใจ ทำให้เชื้อไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้

ดร. อนันต์กล่าวว่าวัคซีนแบบพ่นไม่เป็นที่นิยม ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกามีการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ขณะนี้อยู่ในการพัฒนาระยะที่ 2 ส่วนวัคซีนโควิด-19 แบบพ่นจมูกนั้น เท่าที่ทราบยังไม่เห็นมีใครใช้ ปัจจุบัน ทีมวิจัยของไบโอเทคเลือกใช้ไวรัส 2 ตัว คือ ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัดทั่วไปหรือ Adenovirus และไวรัสไข้หวัดใหญ่หรือ Influenza virus ซึ่งมีความสามารถในการเข้าสู่ร่างกายคนทางโพรงจมูกมาดัดแปลงให้ไม่มีความสามารถในการก่อโรค และอาศัยคุณสมบัติของไวรัส 2 ตัวนี้ในการนำโปรตีนของโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายเพื่อให้ร่างกาย “รู้จัก” โควิด-19 และสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา

เนื่องจากวัคซีนแบบพ่นจมูกนี้ใช้ไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นตัวนำโปรตีนของไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19 มันจึงสามารถป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ไปด้วยในตัว นั่นหมายถึงว่าวัคซีนแบบพ่นนี้เป็นวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ด้วยในเวลาเดียวกัน

วัคซีนแบบพ่นจมูกของไบโอเทคอยู่ขั้นตอนการขออนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งต้องพิจารณาข้อมูลหลายอย่างโดยเฉพาะข้อมูลด้านความปลอดภัยในการใช้งาน ขณะนี้ทีมวิจัยของไบโอเทคได้นำผลการทดลองในหนูทดลอง 30-40 ตัว ที่สรุปว่าหนูทุกตัวที่รับวัคซีนทางจมูกไม่มีอาการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นขั้นตอนการขออนุมัติการใช้งานตามข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก และ เริ่มขออนุญาต การทดลอง (ในคน) ระยะที่ 1 จะใช้เวลา 1-2 เดือน โดย 1 เดือนแรกเป็นการหาอาสาสมัคร หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ก็เก็บข้อมูลได้เลยเพราะเป็นการได้รับวัคซีนในรูปแบบของบูสเตอร์ กรณีที่มีอาสาสมัครเยอะ เราก็สามารถรวมการทดลองในระยะที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกันได้ ทำให้ย่นระยะเวลาได้อีก และนั่นก็อาจจะใช้เวลาเพียงแค่ 3-4 เดือนในการรวบรวมข้อมูลไปยื่นเสนอ อย. เพื่อขออนุมัติการใช้งานได้”

อย่างไรก็ดี ถือเป็น นวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจและน่าติดตามกันต่อไปว่าจะ สามารถส่งผลทดลองที่ดี และ เป็นความหวังใหม่ของประเทศไทยได้หรือไม่

Related Post
Miss Universe 2020

เกือบดราม่าสะเทือนมงซะแล้ว หลังมีภาพหลุดชุดแต่งงานของ “แอนเดรีย เมซา” สาวงามจากเม็กซิโก เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2020

Phuket Sandbox

ส่องภาพรวมกว่า 2 เดือน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ประชาชนได้กลับมาทำงาน ดึงรายได้เข้าประเทศ 829 ล้าน

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว หลังจากที่ มิเคล โกเกส นักเรียนชายชาวสเปนวัย 15 ปีถูกไล่ออกจากโรงเรียน

25/08/2021 นายกฯ โล่ง แอสตร้าฯ เร่งส่ง 61 ล้านโดสในปีนี้ พร้อมปีหน้าเตรียมสั่งสูตรใหม่อีก 60 ล้านโดส

นายกฯ โล่ง แอสตร้าฯ เร่งส่ง 61 ล้านโดสในปีนี้ พร้อมปีหน้าเตรียมสั่งสูตรใหม่อีก 60 ล้านโดส

นายกฯ โล่ง แอสตร้าฯ เร่งส่ง 61 ล้านโดสในปีนี้ พร้อมปีหน้าเตรียมสั่งสูตรใหม่อีก 60 ล้านโดส

วันนี้ (23 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมทางไกลร่วมกับ นายปาสคาล โซริออต (Mr.Pascal Claude Roland Soriot) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด หารือกรอบความร่วมมือด้านสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19 ในภาวะที่มีแพร่ระบาดจากไวรัสกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว โดย บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันจะเร่งส่งมอบวัคซีน ที่เหลือให้ครบ 61 ล้านโดส ภายในเดือนธันวาคม 2564 นี้อย่างแน่นอน และ จะช่วยให้จำนวนยอดการจัดหาวัคซีนทุกประเภทในสิ้นปีนี้รวมกันเกินกว่า 120 ล้านโดส  ถือเป็นข่าวดีต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่เร็วขึ้น ลดภาระระบบสาธารณสุขไทย ช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติและฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วขึ้นอีกด้วย

ซึ่งบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า อยู่ระหว่างการพัฒนาวัคชีนโควิด-19 สูตรใหม่เพิ่มประสิทธิภาพ ให้สามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ดียิ่งขึ้น โดยไทยยังมีสิทธิ์เลือกวัคซีนสูตรใหม่นี้ เพื่อรับมือวิวัฒนาการของไวรัสได้ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้รัฐบาลไทยยังมีแผนสั่งซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเพิ่มอีก 60 ล้านโดสสำหรับปี 2565 ซึ่งคาดว่าข้อตกลงดังกล่าวจะสรุปได้ภายในเดือน กันยายน 2564

Related Post
บุ๋ม ปนัดดา

บุ๋ม ปนัดดา ยังควักเงินในกระเป๋าส่วนตัว 1 แสนบาท ไปซื้อที่ตรวจโควิดแบบ rapid test ให้กับคนยากจนและผู้ป่วยที่เข้าถึงการตรวจยาก

Miss Universe 2020

เกือบดราม่าสะเทือนมงซะแล้ว หลังมีภาพหลุดชุดแต่งงานของ “แอนเดรีย เมซา” สาวงามจากเม็กซิโก เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2020

ไม่ปล่อยให้รอนาน Flex 104.5 พร้อมแล้วที่จะพาทุกคนไปสนุกกับที่สุดของเทศกาลดนตรีแห่งปีที่ทุกคนรอคอย LEO Presents Flex Aqua Fest 2023