ตั้ง ‘มาดามแป้ง’ นั่งผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมใช้ประสบการณ์กว่า 15 ปี เพื่อพัฒนาทีม

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ระบุผ่าน Facebook สมาคมฯ ดังนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงฟุตบอลไทย ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างแสนสาหัส ประกอบกับผลงานของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ที่ผ่านมา สมาคมฯ ตระหนักดีและได้พยายามหาแนวทางที่จะแก้ไข ปรับปรุง อย่างจริงจังมาโดยตลอด ได้ประกาศเชิญชวน และส่งเทียบเชิญผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในวงการฟุตบอลไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เข้ามามีส่วนร่วมในการคิดหาแนวทางเพื่อให้เกิดการพัฒนา และยกระดับฟุตบอลไทยในทุกๆ มิติ ซึ่งต้องขอขอบคุณ ทุกๆ การตอบรับ ข้อแนะนำ รวมถึงแนวทางที่จะผลักดันให้ทีมชาติไทยกลับมาสร้างผลงานได้ดีอีกครั้ง

สมาคมฯ เล็งเห็นว่า “มาดามแป้ง” หรือ คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ซึ่งคลุกคลีอยู่ในวงการฟุตบอลไทยมาถึง 15 ปี มีทั้งความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการนำทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วถึงสองสมัย และมีสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือหัวใจที่รักในฟุตบอลไทย ทั้งในระดับสโมสรและระดับทีมชาติ จึงมีความเหมาะสมและความพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมและเติมเต็มการพัฒนาทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยให้ยิ่งใหญ่และมีความก้าวหน้า เพื่อก้าวขึ้นเป็นทีมชั้นนำของเอเชีย รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมการแข่งขันในเวทีระดับโลกต่อไป

ในการนี้ สมาคมฯ จึงมีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง “มาดามแป้ง” คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ให้ทำหน้าที่ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชายชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (U-23) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยมีภารกิจในการพาทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก, ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2021 หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2021 และ ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023

เราก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ มาดามแป้ง และจะต้องติดตามผลงานในการทำทีมฟุตบอลทีมชาติชายไทยของเราต่อไปนะ

Related Post

ครั้งแรกกับงานฮาโลวีนใจกลางมหานครกรุงเทพ ให้ทุกคนมาหวีดให้สุดเสียงกับฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินกว่า 100 ชีวิตพร้อมแต่งผีมาร่วมลุ้นเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เปิดเผยว่าจะมีการปลดล็อก ชุดตรวจโควิด-19 แบบ Rapid Antigen Test เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้มากขึ้น

สำนักข่าว ซินหัว แจ้งข่าว พบประชาชนในนครอู่ฮั่น เมืองเอกของหูเป่ย มีผลทดสอบกรดนิวคลีอิกเป็นบวก จำนวน 7 ราย

ระทึกไฟไหม้ ตึกสูง ย่าน วิภาวดีรังสิตซอย 9

กลางดึก เมื่อเวลา 23.04 น. ศูนย์วิทยุพระราม 199 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารสูง 37 ชั้น อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ปากซอยวิภาวดีรังสิต 9 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุทธิสาร จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบลักษณะเป็นอาคารกำลังก่อสร้าง มีแสงเพลิงจำนวนมากลุกไหม้บริเวณชั้นดาดฟ้า และมีสะเก็ดไฟปลิวร่วงหล่นสู่พื้นล่างเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งใช้น้ำเข้าควบคุมเพลิงโดยใช้รถกระเช้า ซึ่งมีความสูงประมาณตึก 25-27 ชั้น

เบื้องต้น ทราบว่าอาคารดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โดยที่ชั้นดาดฟ้าก็มีการปรับพื้นที่ และเป็นที่เก็บไม้แบบจำนวนมากซึ่งเป็นเชื้อเพลิงติดไฟ ทำให้เกิดเป็นสะเก็ดไฟ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องใช้ลิฟต์ของคนงานก่อสร้างขึ้นไปบนอาคาร และเดินขึ้นบันไดฉุกเฉินไปยังชั้นดาดฟ้า รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขึ้นรถกระเช้าฉีดน้ำใส่อาคาร ใช้เวลาควบคุมเพลิงนานเกือบ 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นความเสียหายอยู่เพียงบริเวณชั้นดาดฟ้าเท่านั้น ไม่ลุกลาม

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ สันนิษฐานว่าอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณตู้ไฟที่อยู่บนชั้นดาดฟ้า เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานก่อสร้างอยู่ เพราะหยุดก่อสร้างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีเพียงเจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร 1 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 2 คนเท่านั้น ที่อยู่บริเวณด้านล่างตัวอาคาร อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง

Related Post

หลี่ เทา เจ้าหน้าที่ประจำเมืองอู่ฮั่น แถลงว่า เมืองอู่ฮั่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนรวม 7 ราย ซึ่งถือเป็นการระบาดในชุมชนครั้งแรก

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความว่า คนไทยผวาตรวจเจอติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย 36 ราย

สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย ออกมาให้ความมั่นใจกับผู้ป่วยไมเกรนที่มีอยู่กว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศ ต่อการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ของซิโนแวค