BTS บุกทำเนียบขาว ร่วมแถลงข่าว-พบไบเดน คุยปัญหาเกลียดชังคนเอเชีย
กระแสการเกลียดชังคนเอเชียยังคงรุนแรงในโลกอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าเรื่องนี้ วงบอยแบนด์จากเกาหลีใต้ บีทีเอส ก็อยากที่จะเป็นส่วนนึงนารร่วมรณรงค์ให้ยุติปัญหานี้ได้แล้ว โดย พวกเขาได้ปรากฏตัวที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ (ทำเนียบขาว) ระหว่างการแถลงข่าวเช้าเมื่อวันอังคาร (31 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น และเข้าพบนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการต่อต้านความเกลียดชังและอาชญากรรมต่อชาวเอเชีย
อาร์เอ็ม (คิม นัม-จุน) หัวหน้าวง วัย 27 ปี กล่าวทักทายผู้สื่อข่าวว่า
“สวัสดีครับ พวกเราบีทีเอส เป็นเกียรติมากที่ได้รับเชิญมาทำเนียบขาววันนี้ เพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญเกี่ยวกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชีย การโอบรับชาวเอเชีย และความหลากหลาย”
สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน จากสหราชอาณาจักร รายงานว่า นอกจากผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวจากสหรัฐแล้ว ยังมีผู้สื่อข่าวจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมาร่วมทำข่าวด้วย หลายคนต้องยืนทำข่าวตรงทางเดินเลยทีเดียว และห้องแถลงข่าวก็เคยไม่แน่นขนาดนี้นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ มาเป็นประธานาธิบดี
พัก จี-มิน สมาชิกวงบีทีเอส วัย 26 ปี กล่าวว่า
“เราเสียใจมากที่อาชญากรรมจากความเกลียดชังพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง รวมถึง อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังชาวเอเชีย เพราะฉะนั้นเพื่อหยุดเรื่องนี้ เราจึงขอใช้โอกาสนี้ส่งเสียงของพวกเราอีกครั้ง”
ชูกา (มิน ยุน-กี) วัย 29 ปี กล่าวว่า
“ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะแตกต่าง ผมว่าความเท่าเทียมเริ่มขึ้นเมื่อเราเปิดและโอบรับความแตกต่างทุกอย่างของพวกเรานี่แหละ”
วี (คิม แท-ฮยอง) วัย 26 ปี กล่าวว่า
“ทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง เราหวังว่าวันนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่เราเข้าใกล้การเคารพและความเข้าใจต่อกันและกันและทุกคน ในฐานะคนที่มีคุณค่า”
นอกจากการพบปะนายไบเดน บีทีเอสจะร่วมถ่ายทำคอนเทนต์ดิจิทัลให้กับช่องทางต่างๆ ของทำเนียบขาว ด้วย เชื่อว่าการที่วงบอยแยรนด์ระดับโลกได้มีโอกาสสำคัญในการพูดถึงปัญหาที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก คงจะมีแรงกระเพื่อมเพิ่มอย่างมากในกระแสโลกปัจจุบัน
Related Post
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 มีสาระสำคัญคือการล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 จะเปิดลงทะเบียนวันแรก วันที่14 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. กำหนดคนเข้าร่วมโครงการไม่เกิน 31 ล้านคน
“โค้ชเช”ในฐานะ Head Coach ประจำเทควันโดทีมชาติไทย ก็เตรียมตัวที่จะยื่นขอเอกสาร เพื่อ “โอนสัญชาติ” เพื่อเป็น คนไทยอย่างเต็มตัวแล้ว